การทำความเข้าใจเบี้ยประกันรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองที่เราต้องการ เบี้ยประกันรถยนต์มักคำนวณจากปัจจัยหลายประการ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการประกันภัยต่างๆ มักจะให้ส่วนลดสำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์อีกด้วย เมื่อเราเข้าใจสิ่งที่ต้องนำมาคำนวณในการคำนวณเบี้ยประกันรถยนต์และศึกษาค้นคว้าเพื่อหาอัตราราคาเบี้ยที่ดีที่สุดที่เหมาะกับงบประมาณของตัวเอง เราสามารถป้องกันตัวเองจากการผลกระทบทางการเงินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ได้อย่างดี แล้วปัจจัยที่ส่งผลต่อ เบี้ยประกันรถยนต์ ประกอบด้วย

อายุและเพศของเจ้าของรถคันเอาประกัน

ปัจจัยแรกที่สามารถส่งผลกระทบให้ เบี้ยประกันรถยนต์ สามารถมีอัตราค่าเบี้ยที่ถูกและแพงได้นั้นก็คือ กอายุและเพศของคนขับหรือเจ้าของรถที่เป็นผู้เอาประกันภัย เพราะรูปแบบการใช้งานและการขับขี่รถของแต่ละช่วงอายุและแต่ละเพศนั้นจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาในการคำนวณค่าเบี้ยประกันรถยนต์ด้วย โดยในคนขับที่เป็นผู้หญิงถ้ามีช่วงอายุที่ยังน้อยอยู่หรือวัยรุ่น ก็จะถูกพิจารณาว่าเป็นคนขับที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าเพศชายในวัยที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน  จึงส่งผลให้มีราคาเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถูกกว่าเพศชายนั่นเอง ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นเพศชายที่มีอายุมากพอแล้วมักจะถูกพิจารณาว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าเพศหญิงที่อายุมากพอกัน จึงทำให้เพศชายที่มีอายุได้ราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่า

ประวัติการเคลมและการขับขี่

เบี้ยประกันรถยนต์ จะถูกหรือแพงก็สามารถขึ้นอยู่กับประวัติการขับขี่ของเราได้ด้วยเช่นกัน ถ้าเราเป็นคนขับที่ยังไม่มีประสบการณ์ ยังเป็นคนขับมือใหม่ อาจทำให้ราคาเบี้ยสูงได้ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง ในทางกลับกันถ้าเราเป็นคนขับที่มีประสบการณ์และมีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่เคยแจ้งเคลม ไม่เคยเป็นฝ่ายผิด ไม่เคยเฉี่ยวชน ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ก็จะถูกลงกว่าคนที่มีประวัติไม่ค่อยดี แจ้งเคลมบ่อยและเป็นฝ่ายผิดตลอด เพราะถือว่าเป็นคนขับที่มีความรอบคอบ ไม่ประมาทและมีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น การไม่ประมาทในการขับขี่นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายแล้วยังช่วยให้เราประหยัดค่าเบี้ยประกันไปได้ในตัวด้วยเช่นกัน

บริเวณที่อยู่อาศัย

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ เบี้ยประกันรถยนต์ คือบริเวณที่อยู่อาศัยของเราและบริเวณที่เราใช้งานรถ บริเวณที่อยู่อาศัยจะสามารถบ่งบอกความเสี่ยงต่อรถเราได้ เพราะถ้าเราอาศัยอยู่ในบ้านพักที่ติดถนน เป็นชุมชนแออัด ไม่มีพื้นที่จอดรถส่วนตัว ก็อาจจะถูกมองว่าเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เพราะรถอาจถูกเฉี่ยวชนจากรถที่ขับผ่านไปมา หรืออาจถูกขโมยก็เป็นได้ เบี้ยประกันรถยนต์ของเราจึงจะอยู่ในอัตราที่สูงพอสมควร แต่ถ้าเราอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีบริเวณสำหรับจอดรถโดยเฉพาะเป็นของตัวเอง ความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับตัวรถก็จะน้อยกว่ากรณีแรก ทำให้ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าได้ นอกจากนี้ บริเวณที่เรานำรถออกไปใช้งานก็สำคัญด้วย ถ้าเราใช้งานรถในพื้นที่เมืองที่มีการจราจรที่แออัด ความเสี่ยงก็อาจจะสูงกว่ารถที่ถูกใช้งานบนถนนตามต่างจังหวัด

Gwendolyn Freeman